ฟิลเลอร์ (Filler) หรือสารเติมเต็มคือวิธีที่ช่วยเติมเต็มริ้วรอย เติมความชุ่มชื้น และปรับรูปหน้าให้สวยงามได้ตามความต้องการ โดยสารเติมเต็มที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ HA หรือ Hyaluronic Acid เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง สามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติในร่างกาย และได้รับการยอมรับในระดับโลก
การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่หัตถการที่อันตรายหรือเสี่ยงสูง แต่การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานสูงเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกคลินิกที่ใช้ ฟิลเลอร์แท้ และได้รับการรับรอง มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมทั้งใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย ดูเป็นธรรมชาติ และยาวนาน
ฟิลเลอร์ (Filler) มีหลายประเภทและหลายยี่ห้อที่แตกต่างกัน
ฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อและประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของการเติมเต็มริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่น หรือการปรับรูปหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่เหมาะสมกับแต่ละปัญหาผิวและพื้นที่ที่ต้องการการรักษา มาทำความรู้จักกับ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ และ ฟิลเลอร์แต่ละชนิด ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันกันค่ะ
ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในวงการเสริมความงาม ได้แก่ Juvederm, Restylane, Belotero ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกัน โดยมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละส่วนบนใบหน้า เช่น การเติมเต็มร่องแก้ม, ขมับ, คาง, หรือการลดริ้วรอยใต้ตา ทั้งนี้ควรเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาของคุณ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด.
การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลสามารถช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติและยั่งยืน สำหรับใครที่กำลังมองหาฟิลเลอร์ที่ใช่ อย่าลืมเลือก คลินิกฟิลเลอร์ ที่มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐานในการให้บริการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด.
Juvederm: ฟิลเลอร์พรีเมี่ยมจากอเมริกา ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
Juvederm เป็นฟิลเลอร์พรีเมี่ยมจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกมานานกว่า 36 ปี ฟิลเลอร์ Juvederm ผลิตโดยบริษัท Allergan Aesthetics ซึ่งเป็นผู้ผลิต Botox ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ฟิลเลอร์ Juvederm มียอดขายอันดับหนึ่งในโลกและได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังและความงามระดับสากล ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล
ในประเทศไทย ฟิลเลอร์ Juvederm ถูกนำเข้าในรูปแบบหลากหลายชนิด มีทั้งหมด 7 แบบที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับแต่ละส่วนของใบหน้า เช่น ขมับ ใต้ตา แก้ม ร่องแก้ม ปาก คาง กราม กรอบหน้า รวมถึงฟิลเลอร์สำหรับการปรับคุณภาพผิว ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวพรรณและช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เทคโนโลยีของฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นเจลที่ผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ ช่วยเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตในสองประเภทหลักที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติพิเศษในการปรับรูปหน้าและเพิ่มความสมดุล:
- Hyacross Technology
ฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้มีคุณสมบัติเด่นในการอุ้มน้ำ เพิ่ม volume หรือปริมาตรได้ดี ซึ่งเหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณที่ขาด volume เช่น แก้มตอบ ร่องแก้มลึก ขมับตอบ ฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ Juvederm Ultra และ Juvederm Ultra Plus XC - VyCross Technology
ฟิลเลอร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้มีความคงตัวสูง เนื้อเจลเรียบเนียนและมีการยึดเกาะกันที่ดี ช่วยให้ผลลัพธ์หลังการฉีดดูเป็นธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นสูง ปรับรูปหน้าได้ดี โดยชนิดของฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ Juvederm Voluma, Volift, Volbella, Volite, และ Juvederm Volux
ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นต่างๆ และระยะเวลาในการคงผล
- ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟูระดับปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ความหนาแน่นสูง ปั้นง่าย ฉีดแล้วคงตัวได้ดี เหมาะในการเติมร่องแก้ม แก้มตอบ คาง ขมับ
- Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่จับตัวเป็นก้อน นิยมใช้เติมร่องแก้มและใต้ตา Juvederm Volbella อยู่ได้นาน 12 เดือน ฟิลเลอร์ที่เนื้อนิ่มที่สุดของ Juvederm เนื้อฟูละเอียด ไม่จับตัวเป็นก้อน
- Juvederm Volite อยู่ได้นาน 8-12 เดือน ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นจึงนิยมนำมาฉีดผิวชั้นตื้นและใต้ตา หรือฉีดเพื่อเติมความชุ่มชื่นให้ผิว อิ่มน้ำ ดูเด็กลง
- Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง โมเลกุลใหญ่ หนาแน่นสูง ยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย คงรูปได้ดีที่สุด ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มผิวชั้นลึก ใช้เติมคาง เติมขมับ กรอบหน้า เติมร่องลึกๆ ได้ดี
- Juvederm Ultra Plus อยู่ได้ 12 เดือน ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและฟูมาก ทนต่อการขยับของใบหน้าจึงนิยมนำมาฉีดร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือฉีดปากสายฝอที่ต้องการความอวบอิ่มขั้นสุด
ทำไมต้องเลือก Juvederm?
ฟิลเลอร์ Juvederm เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัยและยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่มีความทันสมัย ฟิลเลอร์ Juvederm ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และเติมเต็มพื้นที่ที่ขาดความสมดุลได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหาฟิลเลอร์ที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ฟิลเลอร์ Juvederm คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการปรับรูปหน้าและดูแลผิวพรรณ.
ฟิลเลอร์ Restylane จากประเทศสวีเดน: ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ Restylane (เรสเทอเลน) จากประเทศสวีเดน เป็นหนึ่งในฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและยอมรับทั่วโลก ผลิตโดยบริษัท Galderma ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA), ประเทศไทย, เกาหลีใต้ รวมถึงการรับรองมาตรฐานจากสหภาพยุโรป (EDQM) ฟิลเลอร์ Restylane ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้เป็นที่นิยมในการใช้เพื่อแก้ไขปัญหาผิวหน้าต่างๆ ของผู้คน
เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตฟิลเลอร์ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane มีการใช้ 2 เทคโนโลยีหลัก ในการผลิต ซึ่งทำให้ฟิลเลอร์แต่ละชนิดสามารถใช้ได้หลากหลายบริเวณและเหมาะสมกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน:
- NASHA Technology (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid Technology)
เทคโนโลยีนี้ผลิตฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูงและปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หลังการฉีด เนื่องจากเนื้อเจลมีความคงรูป ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว และเพิ่มความกระชับได้ดี ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน โดยใช้เติมเต็มบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นและความกระชับ - OBT Technology (Optimal Balance Technology)
เทคโนโลยีนี้ช่วยสร้างฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง และเนื้อเจลสามารถปรับรูปทรงได้ดี กลมกลืนไปกับผิว ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบางและต้องการเติมเต็มบริเวณต่างๆ ฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้จะมีอายุอยู่ได้นาน 6-18 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane รุ่นต่างๆ และการใช้งาน
- Restylane Classic
ฟิลเลอร์เนื้อแข็งปานกลาง อนุภาคใหญ่ เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยระดับปานกลางถึงลึก อยู่ได้นานถึง 12 เดือน - Restylane KYSSE
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดและมีความคงตัวพิเศษ เพื่อการเติมเต็มริมฝีปาก โดยเฉพาะ ช่วยให้ปากดูชุ่มชื้น อมชมพู และดูฟูขึ้น อยู่ได้นานถึง 12 เดือน - Restylane Lyft
ฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มบริเวณคางและขมับ อยู่ได้นานถึง 12 เดือน - Restylane Vital Light
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เบา และอนุภาคเล็ก เหมาะสำหรับการเติมเต็มผิวชั้นตื้น เช่น ใต้ตาและบริเวณผิวที่มีความบาง ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้นและรูขุมขนดูเล็กลง อยู่ได้นาน 6-12 เดือน - Restylane Volyme
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่เหมาะสำหรับการเติมเต็มชั้นผิวลึก เช่น แก้ม ขมับ และร่องแก้ม ช่วยให้ผิวดูฟูและอิ่มขึ้น อยู่ได้นานถึง 18 เดือน - Restylane Refyne
ฟิลเลอร์เนื้อแข็งปานกลางที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยตื้นๆ ช่วยให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานถึง 12 เดือน - Restylane Defyne
ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมร่องลึก เช่น ร่องแก้มและมุมปาก ช่วยให้ใบหน้าดูสมบูรณ์และไม่แข็งเกินไป อยู่ได้นานถึง 18 เดือน - Restylane Vital
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับการเติมริ้วรอยตื้นๆ เช่น ริ้วรอยหน้าผากและรอบดวงตา ช่วยให้ผิวดูสดใสและชุ่มชื้น อยู่ได้นาน 12 เดือน
ทำไมต้องเลือกฟิลเลอร์ Restylane?
ฟิลเลอร์ Restylane เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ฟิลเลอร์ Restylane สามารถปรับรูปร่างและเติมเต็มใบหน้าให้ดูสมดุลและกระชับได้ดี หากคุณต้องการฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นเพื่อการเติมเต็มที่ดูเป็นธรรมชาติ Restylane คือตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ.
ฟิลเลอร์ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์
ฟิลเลอร์ Belotero (เบโลเทอโร) เป็นฟิลเลอร์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับการเติมเต็มริ้วรอยและปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์ Belotero มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวของแต่ละคนได้อย่างครอบคลุม ฟิลเลอร์ Belotero ถูกนำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดย Merz Aesthetic Thailand ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในวงการความงาม
เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตฟิลเลอร์ Belotero
ฟิลเลอร์ Belotero ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีการจดสิทธิบัตรเฉพาะของแบรนด์ ฟิลเลอร์ Belotero มีลักษณะโมเลกุลที่มีความหนาแน่นและความยืดหยุ่นสูง ทำให้เนื้อฟิลเลอร์เนียนและกลมกลืนกับผิว ไม่จับตัวเป็นก้อน ผลลัพธ์หลังการฉีดจึงดูเป็นธรรมชาติและช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฟิลเลอร์ Belotero รุ่นต่างๆ และการใช้งาน
– Belotero Soft (กล่องสีเหลือง)
ฟิลเลอร์เนื้อเนียนนุ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็กและละเอียด ช่วยเติมเต็มริ้วรอยตื้นๆ เช่น ริ้วรอยใต้ตา ร่องหางตา และหลุมสิวตื้นๆ เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องริมฝีปาก ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ **6-12 เดือน**
– Belotero Balance (กล่องสีส้ม)
ฟิลเลอร์เนื้อเนียนนุ่มปานกลาง เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึกระดับปานกลาง เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และริ้วรอยรอบปาก ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ **12-18 เดือน
– Belotero Intense (กล่องสีชมพู)
ฟิลเลอร์เนื้อมีความยืดหยุ่นสูง คงรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกมาก เช่น ร่องแก้มลึก แก้มตอบ ร่องน้ำหมาก และคาง ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ **18 เดือน
– Belotero Volume (กล่องสีม่วง)
ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยเพิ่มมิติและวอลลุ่มให้กับใบหน้า ใช้เติมเต็มบริเวณที่การทรุดตัวของกระดูก เช่น แก้มตอบ ขมับ คาง และใต้ตาลึก รวมถึงช่วยยกกระชับใบหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
– Belotero Revive (กล่องสีเขียว)
ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมระหว่าง Hyaluronic Acid (HA) และ Glycerol ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น อิ่มฟู และกระชับรูขุมขน ฟิลเลอร์รุ่นนี้เหมาะสำหรับการปรับผิวให้เรียบเนียน และเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวหน้า รอบดวงตา ริมฝีปาก คอ และมือ ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน
ทำไมเลือกฟิลเลอร์ Belotero?
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสูง ด้วยการใช้เทคโนโลยี CPM ฟิลเลอร์รุ่นต่างๆ ของ Belotero ถูกพัฒนามาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยลึก หรือการเติมเต็มใบหน้าเพื่อความสมดุล ฟิลเลอร์ Belotero จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟิลเลอร์คุณภาพสูงที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเต็มไปด้วยความสมบูรณ์.
เลือกฟิลเลอร์ Belotero เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และยาวนาน พร้อมการปรับรูปหน้าที่มีความยืดหยุ่นสูงและไม่เป็นก้อน.
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ และการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การฉีดฟิลเลอร์เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และสมดุล แต่การเตรียมตัวก่อนและการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การปฏิบัติตัวตามคำแนะนำจากแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ก่อนฉีดฟิลเลอร์: การเตรียมตัวที่ควรทำ
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับคุณ โดยแพทย์จะช่วยแนะนำการรักษาที่ดีที่สุดตามปัญหาผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการ - หยุดการใช้ยาบางชนิด
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฟกช้ำหรือเลือดออก เช่น ยาละลายลิ่มเลือด (Aspirin) หรือยาบางประเภทที่มีผลข้างเคียง เช่น ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด - หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีดฟิลเลอร์ เพราะแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฟกช้ำและบวมหลังการฉีด - เตรียมผิวหน้าให้สะอาด
ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดและไม่มีเครื่องสำอาง เพื่อให้ฟิลเลอร์สามารถถูกฉีดเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลังฉีดฟิลเลอร์: การดูแลเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด
หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ได้รับการฉีดเพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์ไหลหรือกระจายตัวในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ ควรให้ฟิลเลอร์ตั้งตัวและมีการยึดเกาะที่ดีในผิว - หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากใน 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพราะการออกกำลังกายอาจทำให้เกิดอาการบวมและการไหลของฟิลเลอร์ - ประคบเย็น
หลังการฉีดฟิลเลอร์สามารถประคบเย็นบริเวณที่ฉีดได้ เพื่อช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำ แต่อย่าประคบเย็นตรงๆ บนผิว ควรใช้ผ้าหรือผ้าขนหนูห่อแผ่นเย็นประคบเบาๆ - หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง หรือการไปในสถานที่ที่มีความร้อนสูง เช่น ซาวน่า หรือสตรีม เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคืองหรือบวม - ทานยาและวิตามินตามคำแนะนำแพทย์
หากแพทย์แนะนำการใช้ยาหรือวิตามินเพื่อช่วยในการฟื้นฟู ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด - หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
การดื่มแอลกอฮอล์หรือการสูบบุหรี่หลังจากการฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้การฟื้นฟูผิวช้าลงและมีผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่ได้ ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังการฉีด - งดทำเลเซอร์และอาหารบางชนิด
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ควรงดการทำเลเซอร์ในบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 1 เดือน และควรงดทานอาหารหมัก ดอง เพราะอาจส่งผลต่อการอักเสบ
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์
- หากเกิดอาการบวม ฟกช้ำ หรืออาการระคายเคือง ควรติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อรับคำแนะนำ
- ในบางกรณีอาจพบอาการคันหรือแดงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งอาจเกิดจากการตอบสนองของร่างกาย แต่โดยทั่วไปแล้วอาการเหล่านี้จะหายไปในระยะเวลาสั้นๆ
- หากพบปัญหาหรือข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับผลลัพธ์หลังการฉีด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบและให้คำแนะนำที่เหมาะสม
การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและให้ฟิลเลอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์สวยงามและปลอดภัย
ชอบฉีดสกินบูสเตอร์ที่นี่มาก คุณหมอมือเบา ตื่นเช้ามาผิวสวยเลย